อ๊วกเป็นเลือดหรือ (Hematemesis) คืออาการที่อวกออกมาแล้วมีเลือดปะปนออกมาด้วยหรือจะมาในรูปแบบเป็นลิ่มเลือด ซึ่งอาการอวกเป็นเลือดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากมีอาการร่วมกับถ่ายเป็นเลือดด้วยก็จะต้องรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพื่อทำการรักษาในทันที เพราะถ้าปล่อยไว้อาจจะอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
อ๊วกเป็นเลือด เกิดจากอะไร
อาการอวกเป็นเลือดไม่ว่าจะเป็นเลือดสดๆ หรือเลือดที่มีสีดำคล้ายๆ เม็ดกาแฟที่บดแล้ว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เพราะถ้าไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยของโรคก็จะไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าผู้ป่วยมีอาการอวกเป็นเลือดด้วยสาเหตุใด และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวนี้นั่นเอง
- มีแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ร่วมด้วย
- หลอดอาหารเกิดการฉีกขาด ซึ่งมีสาเหตุมาจากความดันที่เพิ่มขึ้นในกระเพาะอาหาร หรือหลอดอาหาร เช่น การขย้อนอาหารอย่างรุนแรง การอาเจียนซ้ำๆ หรือการสะอึกหรือไอ
- มีหลอดเลือดโป่งพองในหลอดอาหาร อาการนี้ส่วนใหญ่มักจะพบกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับแข็ง โดยเฉพาะตับแข็งที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์
- เกิดจากการกลืนเลือดลงสู่กระเพาะอาหารเช่น การกลืนเลือดกำเดา หลังจากที่มีเลือดกำเดาไหลอย่างรุนแรง
- ความผิดปกติทางเลือด เช่น ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ภาวะเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ การได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือเกิดจากมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
- การกลืนสารพิษ หรือสารกลัดกร่อนลงไป
- เกิดจากมะเร็งหลอดอาหารหรือโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร แต่อาการนี้จะไม่พบกับผู้ป่วยที่มีอายุยังน้อย ซึ่งถ้าเป็นสาเหตุจากมะเร็งจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เบื่ออาหารและน้ำหนักตัวลดลงผิดปกติ
อาการที่ควรพบแพทย์ด่วน
อาการอวกเป็นเลือดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการอวกเป็นเลือดร่วมกับอาการถ่ายเหลวออกมาเป็นเลือดด้วย นั่นหมายความว่ามีอาการของโรคค่อนข้างหนักควรรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ด่วน เพราะอาการถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วยจะทำให้ผู้ป่วยเสียเลือดอย่างรุนแรงและอาจทำให้ช็อคหมดสติเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจเด็ดขาด รีบรักษาก่อนจะสายเกินไป
วิธีการรักษา
โดยทั่วไปการรักษาผู้ป่วยอาเจียนเป็นเลือดแพทย์จะทำการรักษาโดยให้สารทางหลอดเลือดหรือให้เลือดทดแทนกับผู้ป่วยที่มีอาการอย่างรุนแรง แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อยเลือดไม่ได้ออกมากหรือหยุดอาเจียนแล้วแพทย์ก็จะไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากทราบอาการของโรคอย่างแน่นชัดแล้วแพทย์ก็จะทำการรักษาตามอาการของโรคเช่น
- หากผู้ป่วยมีอาการอวกเป็นเลือดอย่างรุนแรงและถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วยแพทย์ก็จะทำการรักษาโดยการให้เลือด แทนเลือดที่เสียไป
- ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องทำการรับของเหลวจากทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำ แพทย์อาจจะสั่งยาเพื่อให้ผู้ป่วยหยุดอาเจียน หรือให้ยาเพื่อลดกรดในกระเพาะตามอาการที่เกิดขึ้น
- แพทย์ทางเดินหายใจจะทำการส่องกล้องส่วนบน เพื่อวินิจฉัยอาการและที่มาของเลือดในกรณีที่รุนแรงอาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด
แนวทางการป้องกัน
อาการอวกเป็นเลือดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การป้องกันจะเน้นที่รักษาต้นเหตุของโรคก่อนและเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรค โดยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่ทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารเช่น อาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งร่างกายของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไปจึงควรหมั่นสังเกตอาการของตนเอง จะได้บอกแพทย์ถูกว่ามีอาการอย่างไรบ้าง
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งไปเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร อาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองและเป็นแผลได้ อีกทั้งแอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดโรคตับแข็ง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดหลอดอาหารโป่งพองและทำให้เลือดออกได้ง่ายด้วย
- เลี่ยงการทานยาในกลุ่มยาแก้ปวด เช่น ยาแอสไพริน ยาไอบูโพรเฟน ในขณะที่ท้องว่าง เพราะจะทำให้กระเพราะอาหารเกิดการระคายเคือง
- พยายามไม่เครียด ด้วยการหากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น พวกผักผลไม้ เนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ป่วยที่มีโรคทางเดินหาย ใจเช่น โรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหารควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์เพื่อป้องกันอาการกำเริบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดเลือดออกได้ง่าย
อาการอ๊วกเป็นเลือดเป็นโรคที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมากเพราะอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ ควรป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวโดยการลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เลิกสูบบุหรี่ และไม่ทานยาในขณะที่ท้องว่าง การลดปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ก็จะช่วยให้ห่างไกลจากการอาเจียนเป็นเลือด และป้องกันโรคต่างๆ ได้ดี